[ad_1]
5.1.ให้นักศึกษาทำการศึกษา วิเคราะห์โปรแกรม Antivirus ในหัวข้อต่อไปนี้
1.BitDefender AntiVirus

BitDefender Antivirus Plus 2013 (สุดยอด โปรแกรม ป้องกันไว้รัส อันดับ 1 ของโลก) :ให้ความคุ้มครองความปลอดภัยเชิงรุกครอบคลุม ต่อภัยทุกภัยที่คุกคามทางอินเตอร์เน็ต พร้อมกับการบำรุงรักษาระบบและสำรองข้อมูลโดยไม่ได้ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ของคุณช้าลง
สแกนได้เร็วขึ้น
ระบบการสแกนที่นำสมัยของ BitDefender จะมีการจำและข้ามไฟล์ที่ถูกสแกนไปแล้ว ซึ่งทำให้การทำ Full System Scan เร็วขึ้นและกระทบการทำงานของเครื่องน้อยที่สุด
เลือกรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสม
Bitdefender มี interface หรือ รูปแบบหน้าจอที่สามารถเลือกได้ ตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ Basic, Intermediate หรือ Expert โดยผู้ใช้งานยังสามารถเลือกสร้าง shortcut สำหรับ ฟังก์ชั่นที่มีการใช้งานบ่อยอีกด้วย

Features and Benefits :
– STOP VIRUSES AND SPYWARE COLD
สามารถตรวจจับ ไวรัสและมัลแวร์ที่ สินค้าอื่นไม่สามารถจับได้
– SAFEGUARD YOUR PRIVACY
จัดการกับความเสี่ยงที่จะถูกขโมยข้อมูลทั้งจาก email, facebook, chat หรือ website ที่คอยดักจับข้อมูลของท่าน
– SURF SAFELY
Bitdefender มีระบบการเตือน Website ที่เป็น อันตรายโดยจะแสดงผลในหน้าจอการค้นหาข้อมูล
– SMART TIPS
เมื่อมีการเข้าใช้งาน ใน Website ที่เป็นอันตราย BitDefender จะมีการเตือนพร้อมให้คำแนะนำในการใช้งาน
– VIDEO LIBRARY
BitDefender ได้มีการจัดทำ Video ข้อมูลการใช้งาน โดยแสดงขั้นตอนในการใช้งาน เพื่อให้สะดวกกับผู้ใช้ BitDefender
– FIND SUPPORT FAST
เมื่อเกิดปัญหาจากการใช้งาน หรือแม้กระทั่ง ไวรัส การหาข้อมูลสามารถทำได้หลายวิธี เช่น Knowledge Base, TroubleShooting หรือ ติดต่อ Call Center
– PLAY AND WORK SEAMLESSLY
เมื่อมีการใช้งาน gamesafe, laptop หรือ slient mode สามารถทำให้การทำงานของท่านไม่ถูกรบกวน ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง หรือเล่นเกมส์ หรือแม้กระทั่งลดการใช้พลังงานจาก battery
วิธีใช้งาน
ความง่ายในการติดตั้ง
1. ความต้องการของระบบ
ท่านสามารถติดตั้งโปรแกรม BitDefender Antivirus for Mac บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Macintosh
ระบบปฏิบัติการ Mac OS X เวอร์ชัน 10.4.6 หรือเวอร์ชันล่าสุด ตามความต้องการขั้นต่่าของระบบดังนี้ :
– หน่วยความจ่า RAM อย่างน้อย 1 GB
– พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 100 MB
– การแสดงผลของภาพ : 1 ล้าน สี
– หน้าจอ (4:3) ความละเอียด 1024 x 768
– หน้าจอแบบ wide screen ความละเอียด 1024 x 640
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ทเป็นขั้นตอนที่จ่าเป็นในการลงทะเบียนและอัพเดทโปรแกรม BitDefender Antivirus for Mac
การค้นหาเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ Mac และข้อมูลฮาร์ดแวร์ของคุณ คลิกที่ไอคอน Apple ทางด้านซ้ายมือบนและเลือก About This Mac. จะมีหน้าต่างแสดงข้อมูลเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของคุณ คลิกที่ More Info เพื่อแสดงรายละเอียดข้อมูลฮาร์ดแวร
2. การติดตั้งโปรแกรม BitDefender Antivirus for Mac
ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ที่ชื่อว่า bitdefender.dmg จากนั้นจะปรากฏหน้าจอการติดตั้งโปรแกรม หลังจากนั้นคลิกที่ bitdefenderInstaller.pkg ตามรูปภาพด้านล่าง


2. โปรดอ่านข้อมูลส่าคัญที่เกี่ยวกับโปรแกรมในส่วนของ Read Me ในส่วนของ Read Me จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ BitDefender Antivirus for Mac ซึ่งคุณสามารถพิมพ์หรือบันทึกไฟล์ Read Me ได้หากคุณต้องการที่จะกลับมาอ่านในภายหลัง จากนั้นคลิกที่ Continue

3. โปรดอ่านข้อสัญญาเกี่ยวกับใบอนุญาต (License Agreement) แล้ว click ที่ Continue และเลือก Agree

คือ เงื่อนไขข้อตกลงระหว่างคุณกับ BitDefender ส่าหรับการใช้งานโปรแกรม
BitDefender Antivirus for Mac ซึ่งคุณสามารถพิมพ์หรือบันทึกไฟล์ Read Me ได้หากคุณต้องการที่จะกลับมาอ่านในภายหลัง
ข้อสำคัญ
หากคุณไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับเงื่อนไขดังกล่าว คลิกที่ Continue และเลือก Disagree เพื่อยกเลิกการติดตั้งและออกจากการติดตั้งโปรแกรม4. เริ่มการติดตั้งโปรแกรม โปรแกรม BitDefender Antivirus for Mac จะถูกติดตั้งไว้ที่ MacintoshHD/Library/BitDefender ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการติดตั้งได้ จากนั้นคลิกที่ Install เพื่อเริ่มการติดตั้งโปรแกรม

5. การติดตั้งโปรแกรม รอจนกระทั่งการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ จากนั้นคลิก Continue

2.Panda Antivirus

Panda Cloud Antivirus (ป้องกันไวรัสแบบครบเครื่อง ตัวเดียวอยู่) : โปรแกรมป้องกันไวรัสตัวร้ายตัวใหม่ ด้วย โปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวใหม่ล่าสุด ในเวอร์ชั่น 2011 ที่ผลิต และพัฒนาจากค่ายยักษ์ใหญ่เชื่อถือได้อย่าง Panda แห่งประเทศสเปน ออกมาแล้วครับ ตัวนี้ผู้ผลิตคุยไว้ว่ามีดีที่ครบเครื่องในตัวเดียว แถมยังเบาๆ เหมือนชื่อ ไม่โหลดเครื่องอีกต่างหาก
สำหรับในเวอร์ชั่นนี้ ก็ป้องกันได้ทั้งไวรัส สปายแวร์ รวมไปถึงรูปภาพ หรือไฟล์ต่างๆ ที่อาจจะแฝงตัวมากับไฟล์ที่ท่านดาวน์โหลดมาจาก อินเตอร์เน็ต โปรแกรมนี้จัดการให้เรียบร้อย
Messages from Developers (ข้อความจากทาง ผู้พัฒนาโปรแกรมนี้) : โปรแกรมนี้ คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายที่สุดและมีการ ป้องกันอย่างอัตโนมัติมากที่สุดสำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ แค่เพียงติดตั้งโปรแกรมนี้ คุณก็ลืมเรื่องไวรัส สปายแวร์ รูตคิตส์ นักเจาะระบบ ภัยล่อลวงออนไลน์ และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลไปได้เลย คุณจะสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนรูปถ่ายและวีดีโอ ซื้อขายและทำธุรกรรมทางธนาคารออนไลน์ อ่านบล็อกโปรด หรือท่องเว็บด้วยความสบายใจ ด้วยเทคโนโลยี “Collective Intelligence” ใหม่ล่าสุด จึงทำให้ผลิตภัณฑ์นี้ปฏิบัติงานได้รวดเร็วกว่าเวอร์ชันที่ผ่านมาเป็นอย่าง มากขอขอบคุณสำหรับรางวัลชนะเลิศของเทคโนโลยี Collective Intelligence, ข้อมูลของผู้ใช้ Panda Security นับล้านคือแหล่งรวบรวมข้อมูล Malware ที่มีการอัพเดทเพื่อทำการป้องกันโดยอัตโนมัติสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ทุก เครื่องที่ทำการเชื่อมต่อเข้ากับระบบของ Panda Security คุณสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้โดยการเข้าร่วมสังคมของ Panda เพื่อทำการป้องกันแบบ Real time โดยมีผลกระทบน้อยที่สุดในคอมพิวเตอร์ของคุณMore security, more protection.การป้องกัน เพิ่มขึ้นความปลอดภัยเพิ่มขึ้น : Collective Intelligence เป็นเครือข่ายของข้อมูลโดยผู้ใช้ Panda เป็นผู้สร้างแหล่งข้อมูลนี้ขึ้น และกระจายแหล่งข้อมูลนี้ไปสู่ผู้อื่นโดยอัตโนมัติ ช่วยในการตรวจจับและป้องกันแบบ Real timeMore speed, more simplicity.รวดเร็วและง่าย ดาย : เป็นเรื่องง่ายในการใช้ Collective Intelligence เพียงแค่ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งผลกระทบน้อยที่สุดต่อคอมพิวเตอร์ของคุณMore complete than ever.มากกว่า Antivirus : รวบรวมชุดเครื่องมือที่ใช้ช่วยในการรักษาและปกป้องข้อมูลที่ถือเป็นหัวใจหลักของคุณ
การป้องกันแบบ Real time โดยรวบรวมแหล่งข้อมูลจากผู้ใช้นับล้าน

Panda Antivirus เป็นแอนตี้ไวรัสที่มีอายุมายาวนานพอสมควร ถือกำเนิดขึ้นในปี 1990 โดยผลิต และพัฒนาจากค่ายยักษ์ใหญ่เชื่อถือได้อย่าง Panda แห่งประเทศสเปน โปรแกรมนี้เป็นที่นิยมใช้กันมากในหมู่คนชาวต่างชาติแถบยุโรป เนื่องจากกินทรัพยากรของเครื่องไม่มากนั่นเอง
คุณสมบัติที่มีของ Panda (Version Pro)
• ปกป้องเครื่องจากไวรัส เวิร์ม โทรจัน และโปรแกรมที่ไม่ประสงค์ดี
• ไฟร์วอลล์ Firewall
• โหมดเล่นเกมส์ กับดูหนัง เพื่อไม่ให้เครื่องช้า
• บริหารจัดการเครือข่ายภายในบ้าน Home network management
• สามารถป้อนข้อมูลส่วนตัวเพื่อเข้าสู่ระบบที่ปลอดภัย จากโปรแกรมตรวจจับการทำงานของคีย์บอร์ดได้ Virtual Keyboard

ในส่วน Panda Internet Security 2012 ก็มีความสามารถเพิ่มขึ้นมาคือ
• ไฟร์วอลล์และระบบปกป้องความเป็นส่วนตัว ประวัติการใช้งานเครื่อง Firewall & Identity Protection
• ป้องกันสแปมเมล์ และควบคุมการใช้งานเครื่องให้กับเด็กๆ Antispam & Parental Controls
• สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณทั้งควบคุมหน้าจอ และคัดลอกไฟล์ได้อย่างปลอดภัย Remote system access
• สามารถตรวจจับไวรัสจากกล่องจดหมายใน Outlook ได้ E-mail Antivirus on Outlook

ใน Panda นั้นมีเครื่องมือที่เรียกว่า Panda USB Vaccine เป็นโปรแกรมที่ช่วยป้องกันไวรัส ไม่ให้ทำงานอัตโนมัติเมื่อต่อ flash drive เข้าเครื่อง และป้องกันที่ตัว flash drive เองเมื่อต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นด้วยเช่นกัน (สร้างภูมิต้านทาน)
หลายๆคนคงใช้ USB Disk Security, CPE17, AHDV 1.2 และอื่นๆ จะพบว่าโปรแกรมเหล่านั้นได้แค่ป้องกัน ไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานได้ และที่สำคัญโปรแกรมชอบขึ้นหน้าต่างมาให้รำคาญใจอยู่ตลอดเวลา และเราต้องนำเมาส์ไปคลิกปิดมันทุกครั้งที่เราต่อ flash drive
Panda USB Vaccine นวัตกรรมใหม่ ฉีดวัคซีนให้ flash drive ป้องการการทำงานของไวรัสเมื่อต่อ flash โดยอัตโนมัติทำให้คุณทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องการรำคาญ ไม่ต้องกังวลกับไวรัสที่ flash drive
ความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของ Panda
เป็น Antivirus หนึ่งเดียวที่ใช้เทคโนโลยีแบบ Cloud Computing เข้ามาช่วย
โดยปกติแล้วเมื่อมีไวรัสตัวใหม่เกิดขึ้น และกำลังแพร่กระจายอยู่ เมื่อมีคนติดไวรัสถึงระดับที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง บริษัทและแลปก็จะนำไฟล์นั้นไปวิเคราะห์ และออกตัวแก้ออกมาให้กับผู้ใช้โดยการอัพเดทแต่ว่ากระบวนการนี้ ใช้เวลาทั้งสิ้นโดยตั้งแต่หลายชั่วโมงไปจนถึง 48 วันเลยทีเดียว
ซึ่งหมายความว่า ถึงแม้ว่าโปรแกรมกำจัดไวรัสของคุณจะมีการอัพเดทข้อมูลไวรัสทุกวันก็จริง
แต่ข้อมูลที่ได้เป็นไวรัสตัวที่เพิ่งถูกกระจายเข้าระบบเมื่อหลายวันก่อน
แต่ด้วยระบบ Cloud ของแพนด้า เมื่อไวรัสแพร่กระจายทั่วอินเตอร์เน็ต
ระบบใช้เวลาเพียง 6 นาทีก็สามารถอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสของผู้ใช้แพนด้าได้ ทั่วโลกแล้ว
ซึ่งระบบฐานข้อมูลแบบ Cloud อัพเดทข้อมูล ทุกๆวินาที เลยทีเดียว
สรุปความสามารถที่โดดเด่นของ Panda Antivirus 2012



สำหรับ ความสามารถ ของเจ้าตัว โปรแกรมนี้ โดยสังเขป นั้นก็ โปรแกรมนี้สามารถที่จะ ปรับเปลี่ยน Skin หรือ หน้าตา ของการใช้งาน (Interface) ได้อย่างตามใจชอบ, มีระบบ ตรวจสอบหาไวรัส ทั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์เอง และ ไวรัสที่อาจจะมาจาก อินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นทาง E-Mail หรือ เว็บไซต์ (Web Access) โดยการตรวจสอบนี้ จะทำตั้งแต่ การเริ่ม เปิดเครื่อง (Boot) เลยละครับ ซึ่งนอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี ของ iAVS technology โปรแกรมนี้ ยังมีระบบการ Update ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส ตัวใหม่ๆ ที่อาจจะ เพิ่งเกิดขึ้นมา ได้แบบ อัตโนมัติ อาจจะเป็น 2-3 ครั้ง ต่อ สัปดาห์ แล้วแต่ความเหมาะสม
การติดตั้ง และใช้งาน Avast Antivirus
1. ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งที่เว็บ Avast ที่ http://www.avast.com/free-antivirus-download จะเข้าสู่เว็บไซต์ ดังภาพ
ที่ Select download เลือกภาษา English (44MB) แล้วคลิ๊กปุ่ม Download now

2. แสดงหน้าจอ Download Avast Free Antivirus 5.0.545 ดังภาพ ให้คลิ๊กที่ Download now

3. จะแสดง Popup ให้ Save ไฟล์ที่จะ Download คลิ๊กปุ่ม Save (ถ้าใช้ Firefox คลิ๊กปุ่มบันทึกแฟ้ม)

4. เลือกตำแหน่งที่จะเก็บไฟล์ จากตัวอย่างให้ Save ไว้ที่ Desktop โดยคลิ๊กปุ่ม Desktop แล้วคลิ๊กปุ่ม Save

5. เมื่อ Download เสร็จแล้ว จะได้ไฟล์ setup_av_free.exe อยู่ที่ Desktop ดังภาพ

ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ setup_av_free.exe เพื่อติดตั้งโปรแกรม (ควร Remove ลบโปรแกรมกำจัดไวรัสตัวอื่นออกก่อน)
6. หลังการติดตั้งแล้ว ที่ Task bar (ตรงมุมล่างด้านขวาของจอ) จะมีสัญลักษณ์ของโปรแกรม Avast แสดงอยู่ (เป็นตัว “a” ในวงกลม)

ถ้าติดตั้งไว้เฉยๆ โปรแกรมจะใช้งานได้แค่ 60 วัน จึงต้อง Register ด้วย เพื่อให้สามารถใช้งานได้ 1 ปี (หากครบ 1 ปี ก็ Register ใหม่ได้)
7. วิธีการ Register ให้เข้าไปที่เว็บ Avast ที่ http://www.avast.com/index แล้วคลิ๊กที่เมนู Support ที่ส่วนของLicense Center คลิ๊กที่ Register new free license

8. จากนั้นจะแสดงหน้า Register สำหรับใช้งานฟรี 1 ปี ซึ่งจะต้องกรอกข้อมูล (เป็นภาษาอังกฤษ) ในช่องด้านล่างให้ครบ


** ที่สำคัญ e-mail ห้ามผิดเด็ดขาด เพราะ Avast จะส่งรหัส Register มาทาง e-mail ที่เรากรอกไว้ เมื่อกรอกข้อมูลครบทั้งหมดแล้ว ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Register for free license (ด้านล่าง)
9. เมื่อ Register เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่างดังภาพ (หากไม่แสดงหน้าต่างนี้ ให้กลับไปกรอกข้อมูลใหม่ ให้ถูกต้องและครบถ้วน)

10. ให้เปิด Email ของท่าน (ที่กรอกไว้ตามที่ Register ในข้อ 9.) ซึ่ง Avast จะส่งรหัส Register มาให้ทาง Email ดังตัวอย่าง

11. วิธีการนำ Registration Code มาใช้งาน
เปิดโปรแกรม Avast ขึ้นมา โดยคลิ๊กเมาส์ขวาที่ปุ่ม Avast ที่อยู่ที่ Task bar (ด้านล่าง) เพื่อเรียก Shortcut Menu ขึ้นมา แล้วคลิ๊กเลือก Start avast! Antivirus

12. จะมี Popup แสดงขึ้นมา คลิ๊กที่ Registration

13. แสดงหน้าต่าง Registration

ให้ Copy Code (ที่ส่งมาใน Email ของเรา ในข้อ 10.) ที่อยู่ในช่วง cut here มาทั้งหมด คลิ๊กที่ช่องใส่Code ให้เคอร์เซอร์กระพริบ แล้วกดปุ่ม Ctrl+V เพื่อวาง Code ที่คัดลอกมา แล้วคลิ๊กปุ่ม OK
แล้วคลิ๊กปุ่ม OK แล้วจะสามารถใช้โปรแกรมกำจัดไวรัส Avast ได้ 1 ปี
14. เมื่อลงทะเบียนเสร็จ Test of Memory and Startup ให้เลือกที่ Continue

15. หน้าตาโปรแกรมจะเป็นดังรูป

16. ให้คลิกขวาที่โปรแกรม แล้วเลือก Settings…

17. ที่หน้า avast! settings.. เมนู Common จะเห็นเครื่องหมายถูกหน้าข้อความ Test memory during application start-up ส่วนนี้ถ้าไม่อยากให้ test ทุกครั้งที่เปิดโปรแกรม ก็สามารถเอาออกได้ (เพราะเรา test ครั้งแรกไปแล้ว)

18. ที่เมนู Update (Basic) ให้เลือกแบบ Automatic ทั้ง 2 Virus database และ Program
จากนั้นกด Update now…

19. จะปรากฏหน้าต่าง avast! Antivirus Setup ให้ update ต่อไป

20. เมื่อ update เสร็จจะปรากฏหน้าต่างดังรูป คลิกปุ่ม Close ปิดหน้าต่างนี้

21. ต่อไปเป็นวิธีการ scan ทั้ง local disk (ควรทำหลังจากลงโปรแกรม avast)
– click ขวาเลือก Start Scan -> Select scan area -> Local disks

22. เลือกระดับที่ต้องการ scan ในที่นี้เลือก Thorough Scan และให้ทำเครื่องหมายถูกที่ Scan archive files ด้วย เพื่อให้ scan ไฟล์ประเภท zip
click ที่ปุ่ม > ตำแหน่งดังรูป เพื่อเริ่มการ scan

23. โปรแกรมจะทำการ scan ไปเรื่อยๆ

24. เมื่อเจอไฟล์แปลกปลอมจะขึ้น ดังรูป ให้กด delete

25. และกดปุ่ม delete เพื่อยืนยันอีกรอบ

26. เมื่อ scan เสร็จเรียบร้อย จะขึ้นหน้าต่าง Results of last scan ดังรูป

27. เนื่องจากเป็นโปรแกรมฟรี จึงจะต้อง Update Virus Pattern ด้วยตัวเอง โดยคลิ๊กเมาส์ขวาที่ปุ่ม Avast ที่อยู่ที่Task bar (ด้านล่าง) เพื่อเรียก Shortcut Menu ขึ้นมา แล้วคลิ๊กเลือก Updating แล้วเลือก iAVS Update (แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ต้องต่อ Internet อยู่ด้วย)

4.Avira Antivirus

– เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ครอบคุม คือไม่ว่าจะเป็น การกำจัด การป้องกัน หรืออื่น ๆ และเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ถูกออกแบบมาสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่อนบุคคลที่ใช้ในบ้านเท่านั้น
– เป็นโปรแกรมที่เป็นที่ยอมรับในการป้องกัน มัลแวร์ของไวรัส, โทรจัน,โปรแกรมขโมยครามลับ, และอื่น ๆ
– โปรแกรมสามารถอัพเดทเองโดยอัติโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งานที่ดีขึ้น
– เป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ติดตั้งง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นเอง
– สามารถป้องกันไวรัสจากตัวที่รู้จัก และไม่รู้จักได้โดยระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมขั้นสูง
– สามารถตั้งเวลาการทำงานของโปรแกรมว่าจะให้โปรแกรมสแกนไวรัสเวลาไหน และนอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาในการอัพเดทของตัวโปรแกรมได้อีกด้วย
– โปรแกรมสนับสนุนระบบปฏิบัตการวินโดว์วิสตา
– โปรแกรมสามารถตรวจสอบและกำจัดไวรัสได้
หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว เมื่อเปิดโปรแกรมจะมีหน้าต่างโชว์ดังรูป

แนะนำเมนูใช้งานต่างๆ
Status
-เป็นหน้าจอแสดงสถานะของโปรแกรมเหมือนดังรูปข้างบน
Scanner
-เป็นหน้าจอสำหรับใช้แสกนไวรัส โดยสามารถเลือกไดรว์หรือโฟล์เดอร์ที่ต้องกานสแกนได้
Guard
– เป็นหน้าจอแสดงรายละเอียดในการสแกนแต่ละครั้ง เช่นจำนวนไฟล์ที่ติดไวรัส
Quarantine
-เป็นหน้าจอแสดงรายชื่อไวรัสที่โดนกักขังอยู่ ในกรณีที่โปรแกรมยังไม่สามารถกำจัดได้ เพื่อป้องกันการแพร่การะจาย
Scheduler
-เป็นหน้าจอแสดงการตั้งเวลาสแกนอัตโนมัติ
Reports
-เป็นหน้าจอแสดงรายงานผลการสแกน
วิธีใช้งาน
1.คลิกที่แทป Scanner
2.คลิกเลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการสแกน(ในที่นี้เลือก Local Drives คือเลือกทุกไดรว์)
3.คลิกที่รูปแว่นขยายดังรูปเพื่อเริ่มทำการสแกน
– โปรแกรมจะเริ่มทำการสแกน
– หลังจากสแกนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะขึ้นหน้าต่างดังรูป

1.คลิกปุ่ม End โปรแกรมจะทำการกำจัดไวรัสที่พบให้โดยอัตโนมัติ
2.คลิกที่ปุ่ม Report หากต้องการดูรายละเอียดการสแกน
Quarantine
-สามารถเข้าไปลบไวรัสที่ถูกกักขังใน Quarantine ได้โดยการคลิกเลือกที่ไฟล์ที่เป็นไวรัสและคลิกที่รูปถังขยะ
การอัพเดทข้อมูลไวรัส
-คลิกที่แทปเมนู Status
-ที่ไอคอน Last Update ให้คลิกที่ Start Update ด้านขวามือเพื่อทำการอัพเดทออนไลน์
5.Norton AntiVirus

Norton ได้รับความ เชื่อถือมายาวนาน ทั้งคุณภาพ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งรับประกันได้จาก จำนวนผู้ใช้ ที่ติดตั้งไปหลายล้านเครื่อง ทั่วโลก Norton ออกแบบ การใช้งาน ได้น่าประทับใจ และเพียบพร้อม สำหรับการทำงาน
การติดตั้ง ที่แสนง่ายดาย
รูปแบบการติดตั้ง ของ Norton ถูกออกแบบมาอย่างดี และช่วยให้เราสามารถติดตั้งระบบ รักษาความ ปลอดภัย ที่ดีได้ เวลาที่ทำการ run ซอฟต์แวร์ ตัวนี้เป็นครั้งแรก การทำงานทุกอย่างดูเหมือนจะถูก กำหนดไว้ ให้เสร็จสรรพ ซึ่งรวมไปถึง การ update รายการ virus ให้อัตโนมัติ อีกทั้ง ยังทำแผ่นฉุกเฉิน ( Rescue Disk ) ไว้ให้ ในกรณี ที่เครื่องโดนไวรัสเข้าไป และเมื่อทำการ ติดตั้งเสร็จแล้ว เราจะได้ระบบรักษา ความปลอดภัย ที่สมบูรณ์ ตัวหนึ่ง และมี application เพียงตัวเดียว เท่านั้น ที่จะควบคุม การตรวจจับ ทั้งระบบ ที่สำคัญนั่นคือ มีระบบที่ง่าย ต่อการ update ไวรัสใหม่ๆ ซึ่งจะเตือนคุณ ว่าคุณควร update หากว่าคุณยังไม่เคย update ไวรัส หรือปล่อยเอาไว้นานกว่า 1เดือน
update ด้วย คลิกเดียว
น่าประทับใจ สำหรับการ update รูปแบบไวรัสใหม่ๆ ของ Norton เพราะว่า มีขั้นตอนที่ดีที่สุด ในบรรดา Anti Virus ด้วยกัน เพียงการ click ที่ Live Update ก็จะเข้าสู่กระบวนการ update ซึ่ง จะทำการ update และ install ให้โดยอัตโนมัติ อีกทั้ง ยังตือนคุณ ว่าควร update หากคุณ ปล่อยเอาไว้ นานกว่า 1 เดือน ( แต่โชคร้าย ที่ว่า Norton ให้บริการ update ฟรีเพียง ปีแรกที่ซื้อผลิตภัณฑ์ เท่านั้น สำหรับในปีต่อๆ ไปจะต้องเสียค่าสมาชิก ปีละ 3.95 ดอลลาร์ )
ความสามารถ ในการตรวจจับ
ทำได้อย่างน่าประทับใจ ที่คุณสมบัติ ที่จำเป็น แทบจะครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น scan email, Zip File และไฟล์ปกติ ทั่วไป ซึ่งทำงานอยู่เบื้องหลัง แบบ real time เช่นเดียวกับ Antivirus ตัวอื่นๆ แม้ว่า เมื่อเทียบ คุณสมบัติแล้ว จะยังด้อยกว่า McAfee อยู่บ้างก็ตาม ในการตรวจสอบ Zip File ที่ McAfee ยังให้คุณภาพ ที่ดีเยี่ยมกว่า และยังขาด คุณสมบัติ การตรวจสอบ ActiveX และ Java แต่ก็นับว่า เพียงพอ สำหรับการใช้งาน โดยสามารถ ตรวจจับไวรัสได้ 95.1%
กินทรัพยากรของระบบ
คงต้องยอมแลกกันเล็กน้อย สำหรับโปรแกรม ที่ง่าย ต่อการใช้งาน และมีการ update ที่มีประสิทธภาพ แต่ว่า เพราะความง่ายเหล่านี้ ซ่อนเอาไว้ด้วย ตัวโปรแกรม ที่ทำให้ระบบช้าลงถึง 6% เลยทีเดียว ซึ่งถือว่า มากที่สุด ในบรรดา 3 โปรแกรม ที่เราหยิบมา
วิธีการติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส นอรตัน Norton
สำหรับการติดตั้งโปรแกรมบน Windows 2000 หรือ Windows XP คุณจะต้อง Log on เข้าวินโดว์ในสถานะของ administrator เท่านั้น ถึงจะทำการติดตั้งโปรแกรมได้
1. คลิกที่แถบ Install Install Norton AntiVirus 2005 หรือไอคอนตัวติดตั้งโปรแกรม โปรแกรมจะทำการเตรียมไฟล์ข้อมูลเพื่อการติดตั้ง ให้รอสักครู่ จะปรากฏหน้าต่างต้อนรับ ให้คลิกปุ่ม Install โปรแกรม Nortion AntiVirus ก็เริ่มติดตั้งลงเครื่องคอมพิวเตอร์

2. จากนั้นโปรแกรมจะแสดงหน้าต่างต้อนรับและแสดงข้อความลิขสิทธิ์ให้คลิกปุ่ม Next

3. โปรแกรม Norton AntiVirus แสดงข้อความสิขสิทธิ์ให้เราอ่าน คลิกที่ I accept the License Agreement และคลิกปุ่ม Next

4. โปรแกรม Norton AntiVirus อยู่ในขั้นเตรียมการติดตั้ง เปิดให้เราสแกนไวรัสก่อน ให้คลิกที่ปุ่ม Start Scan

5. จากนั้นคลิกปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป

6.จากนั้นโปรแกรจะขึ้นหน้าต่างให้เลือกโฟลเดอร์ในการติดตั้ง ให้ใช้ค่าที่โปรแกรมกำหนดมาให้เลย จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Next

7. ระบบทำการติดตั้งโปรแกรม Norton Antivirus รอสักครู่

8. เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้ว ระบบจะให้เราทำการ Restart คอมพิวเตอร์ใหมj ให้คลิกเลือกที่ Restart Windows จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Finish

9. เมื่อคอมพิวเตอร์ของเรา Restart ขึ้นมาใหม่ก็จะพบกับหน้าต่างของ Norton Antivirus คลิกปุ่ม Next เพื่อทำงานต่อไป




ในที่นี้ให้เลือก Activate later และคลิกปุ่ม Next

11. จะปรากฏหน้าต่างระบบความปลอดภัย ให้ใช้ค่าที่ทางระบบตั้งไว้ จากนั้นคลิกปุ่ม Next เพื่อทำงานต่อ

12. ระบบจะทำการการ Configuring รอสักครู่จะปรากฏหน้าต่างดังรูป ให้กดปุ่ม Finish

13. เมื่อกดปุ่ม Finish จะปรากฏหน้าตาโปรแกรม Norton AntiVirus

6.ESET NOD32 Antivirus

คุณลักษณะเด่น ESET NOD32 Antivirus
- Proactive Protection: ด้วยเทคโนโลยี ThreatSense ที่ประสานรูปแบบการตรวจจับ การป้องกัน คุณจาก การคุกคามทางอินเทอร์เน็ตก่อนที่มันจะสายเกินไป
- Precise Detection: ESET คอยตรวจสอบการคุกคามที่รู้และไม่รู้อย่างละเอียดลออแ ม่นยำ ทำให้เราชนะรางวัลสูงสุดในการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ เสมอ และถูกจดจำในฐานะ โปราแกรมป้องกันไวสที่มีค่าความล้มเหลวเป็นศูนย์
- Lightweight Design: ต้องการหน่วยความจำน้อย และ กินกำลัง CPU น้อยกว่า, ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณการทำงานเร็ว,พอเพียงสำหรับกา รเล่นเกมส์, การท่องเวป, และการรับส่งอีเมล.
- Fast Scanning Speeds: ESET มีประสิทธิภาพสูง รองรับการตรวจสอบแฟ้มเอกสารที่เร็วและปรับปรุงผลิตภั ณฑ์ โดยมันทำงานเบื้องหลังเงียบๆ.
ด้วยคุณสมบัติ Proactive, precise, lightweight และ เร็ว. คุณไม่ต้องหา โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีกว่านี้อีกแล้ว
ขั้นตอนการทำงาน
การติดตั้งโปรแกรม



วิธีใช้งาน

ESET ยังคงรักษาคอนเซปส์การออกแบบ Dashboard สไตล์เรียบง่ายเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ไม่ยาก โดยฝั่งซ้ายจะมีคำสั่งในการใช้งานให้ และจะแจ้งสถานะของโปรแกรมให้ที่ทางฝั่งขวา แต่อย่างไรก็ดีเราพบว่าการปรับแต่งโปรแกรมในหน้าหลักนั้น มีตัวเลือกให้ไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร โดยเราแนะนำว่าในการใช้งานครั้งแรกควรเข้าไปปรับแต่งที่ Advance Setup เสียก่อน โดนเข้าไปที่เครื่องหมายถูกที่มุมขวาบน ซึ่งในนี้จะมีเมนูการปรับแต่งอยู่มากมายให้เลือก เราก็เข้าไปเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้เลย

การสแกนไวรัส

Nod32 รองรับการสแกนไดร์ฟหลักของเครื่องที่ติดตั้ง และเครื่องอื่นบนเครือข่าย มีตัวเลือกในการสแกนให้ทั้งแบบ Smart Scan , In-Depth Scan และ Context Menu Scan. จากการทดสอบเราพบว่า Eset สามารถสแกนไฟล์ได้ค่อนข้างเร็ว โดยอยู่ที่ประมาณ 44.3 เมกกะไบต์ต่อวินาที การสแกนพื้นที่ 1 กิ๊กกะไบต์จะใช้เวลาประมาณ 23 วินาที (ทดสอบบนคอมพิวเตอร์ Windows 7 Home Premium Pentium Dual-Core T4200 (64 bit), แรม 3GB ฮาร์ดดิสก์ 210GB)
7.AVG Anti-Virus
- คุณสมบัติเฉพาะต่าง ๆ ของโปรแกรม
AVG Anti-Virus Free Edition (อีกหนึ่ง โปรแกรม แอนตี้ไวรัส แจกฟรี ได้รับความนิยมสูง) : เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ชื่อดังของโลก ซึ่งต่างประเทศโปรแกรมตัวนี้ ติดอันดับต้นๆ ของ Antivirus ที่ฮอตฮิตโลกเลยที่เดียว แต่สำหรับเมืองไทยกลับไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าตัว AVG นอกจากจะมีดีเพราะความ ฟรี ของมันแล้ว มันยังมีความสามารถป้องกันไวรัส และเหล่าบรรดา มัลแวร์ (Malware) แฮคเกอร์ (Hacker) ได้ดีไม่แพ้ของที่เสียตังค์แต่อย่างใด มีการUpdate ข้อมูลไวรัสอย่างรวดเร็ว แถมยังไม่หน่วงเครื่องของคุณอีกต่างหากแถมยังมีฟังก์ชั่น Real-time Protection เปรียบเสมือนยามค่อยเฝ้ามองไวรัสอยู่ตลอดเวลา
วิธีใช้งานโปรแกรม AVG Anti-Virus Free Edition
หลังจากติดตั้งแล้วเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาจะมีหน้าต่างดังรูป
-ให้คลิก Next

-ให้คลิก Next อีกที

– ในช่อง Low Priority เลือกถ้าหากแรมคุณมีขนาดไม่มากนัก จะทำการสแกนไปอย่างช้าๆ
– ในช่อง Hight Priority เลือกถ้าหากว่าแรมคุณมีขนาดใหญ่ จะทำให้การสแกนเร็ว แต่อาจจะทำให้เครื่องดาวน์ลงในระหว่างที่ำทำการสแกน
– ในช่อง Enable Schedualed Dialy ถ้าเลือกโปรแกรมจะทำการสแกนตามเวลาที่ได้ตั้งไว้(แนะนำให้ติ๊กออกแล้วเลือกสแกนเองตามต้องการดีกว่าครับ)
– จากนั้นให้คลิก Next

-จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือนว่าต้องการจะสแกนไวรัสตอนนี้หรือไม่ ให้เลือก Next

-จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือนว่า

-จากนั้นจะมีหน้าต่างดังรูป ให้คลิก Continue

-จากนั้นจะเข้าสู่เมนูใช้งานดังรูป

วิธีใช้งาน
1.Scan Computor
-คลิกที่ปุ่มสแกนคอมพิวเตอร์ เพื่อเริ่มทำการสแกน
-หลังจากที่ทำการสแกนเสร็จแล้ว หากต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสให้คลิกปุ่ม Detail จะได้ ดังรูป

-จะโชว์ข้อมูลของไวรัส(ในที่นี่ไม่มีไวรัส) ให้คลิกปุ่ม close
-จากนั้นจะมีหน้าต่างเตือน ให้คลิก ok
-และคลิกปุ่ม yes อีกครั้ง เพื่อทำการลบไวรัส
2.Scan Selected Areas
-เป็นการเลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการจะสแกนไวรัส
-คลิกที่ปุ่ม Scan Selected Areas
-เลือกไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการสแกน
-จากนั้นคลิกปุ่ม Scan Selected Areas
-โปรแกรมจะเริ่มทำงาน
-เมื่อทำการสแกนเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Close เพื่อทำการกำจัดไวรัส
3.Check for Updates
-เป็นการอัพเดทข้อมูลไวรัส
-คลิกปุ่ม Check for Updates
-จะปรากฏหน้าต่างการอัพเดทโปรแกรม ให้คลิกปุ่ม internet เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลไวรัส
-จะปรากฏข้อมูลที่จำเป็นในการอัพเดทให้คลิกปุ่ม Update
-เมื่ออัพเดทข้อมูลเสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม ok
Control Center
-เมนูด้านซ้ายมือ
-คลิกปุ่ม Control Center
-จะปรากฏหน้าต่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Anti-Virus
-เป็นส่วนในการอัพเดทข้อมูลไวรัสในโปรแกรม
Scheduler
-ทำหน้าที่ในการตั้งเวลาสแกนและอัพเดทข้อมูลไวรัส
Resident Shield
-เป็นระบบป้องกันไวรัสแบบเรียลไทม์
Virus Vault
-เป็นเสมือนห้องคุมขังไฟล์ที่ถูกไวรัสเล่นงาน
Update Manager
-เป็นการรายงานอัพเดทข้อมูลไวรัสว่าล่าสุดเมื่อไร
8.Microsoft Security Essentials (MSE)

Microsoft Security Essentials 4.0 โปรแกรมแอนตี้ไวรัสและแอนตี้สปายแวร์ที่ให้การปกป้องแบบเรียลไทม์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณให้พ้นจาก ไวรัส สปายแวร์ และซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายอื่น ๆ
Microsoft Security Essentials สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากไมโครซอฟท์ที่ง่ายในการติดตั้งง่ายต่อการใช้และมักจะเก็บไว้ถึงวันดังนั้นคุณสามารถมั่นใจได้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณมีการป้องกันโดยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เป็นเรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจะปลอดภัย
Microsoft Security Essentials ทำงานได้เงียบและมีประสิทธิภาพอยู่เบื้องหลังเพื่อให้คุณมีอิสระในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์บน Windows ของคุณด้วยวิธีที่คุณต้องการ โดยคอมพิวเตอร์ไม่หยุดชะงักหรือรอเวลานาน

การใช้งาน
9.Kaspersky Antivirus

Kaspersky Anti-Virus 2013 (โปรแกรม ป้องกัน ไวรัส) : โปรแกรมป้องกันไวรัสซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ทั้งในประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมและฟังก์ชั่นการทำงานที่ยอดเยี่ยมจากกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปและเว็บไซต์ต่างๆ โปรแกรมนี้สามารถป้องกันภัยการโจมตีได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเป็นจากไวรัส แฮกเกอร์ที่พยายามเจาะเครื่องของเรา หนอนอินเตอร์เน็ท สปายแวร์หรือมัลแวร์ต่างๆ หรือภัยแฝงที่มากกับ MSN
– แสกนไฟล์หน้าเว็บไซต์ที่ท่านกำลังเปิดใช้งาน และ E-messages อย่างอัตโนมัติ
– ป้องกันการขโมยข้อมูลพื้นฐานปรับปรุง!
– รหัสสีในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยใหม่!
– ปิดใช้งานในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย
– บล็อคโปรแกรมที่น่าสงสัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของโปรแกรมนั้นๆปรับปรุง!
– ปกป้องคอมพิวเตอร์คุณจากกลุ่มแฮกเกอร์ประสงค์ร้าย
– การป้องกันตัวเองจากมัลแวร์
– ไม่ว่าเหตุการณ์ปกติหรือฉุกเฉินโปรแกรมจะป้องกันภัยเสมอ Kaspersky 2012
วิธีใช้งาน

License Key Registry File ที่ดาวน์โหลดมาจากเวบ crack ติดตั้งครั้งแรกจะใช้ได้นาน 1 ปี เมื่อใช้ไปจนหมดอายุแล้ว เราก็ยังสามารถต่ออายุการใช้งานต่อไปได้อีก
1 Uninstall โปรแกรม Kaspersky Antivirus
2 ล้างรีจิสเตอร์ขยะ ด้วยโปรแกรม Registry Cleaner หรือ Registry Mechanic
3 Install โปรแกรม Kaspersky Antivirus
4 ที่เมนู Support > License Keys ให้ Add License Key Registry File เข้าไปก็จะสามารถต่ออายุการใช้งานได้อีก 1 ปี
วิธีการต่ออายุโปรแกรมหรือupdate
Update Kaspersky offline มีวิธีการ..
1.เข้าไปที่เว็บนี้ http://www.kaspersky.com/avupdates

2.เมื่อได้แล้วลองมองดูดีๆตรงที่ link มันจะถามว่าเราใช้ version ไหนแล้วเราก็เลือกให้ตรงกับ versionที่เราใช้อยู่ 5.0 ,6.0 หรือ 7.0 ส่วนเรื่องที่ว่าเป็น anti virus หรือว่า internet security นั้นว่าทีหลัง

3.ตามปกติของทางเว็บ kaspersky นั้นจะ update ข้อมูล anti virus ทุกๆวันอาทิตย์ และจะปล่อยออกมาให้เราได้ download กัน โดยมันจะมีทั้งหมด 6 อันแต่เราจะพูดถึงแค่ 3 อันที่จำเป็นกับเรา
– av-i386-daily.zip อันนี้จะมีขนาดเล็กที่สุดและ Update บ่อยที่สุดเนื่องจากมันจะ
Update แบบวัน ต่อวันหรืออาจจะเป็นแบบชั่วโมงต่อชัวโมงเลยก็ได้ และอาจทันทีที่ Kaspersky Lap
พบ Virus ชนิดใหม่ ถ้าใครขยันหรือต้องการความปลอดภัยแบบดีก็โหลดอันนี้
– av-i386-weekly.zip อันนี้จะเป็นแบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์ (ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่
แล้วถึงอาทิตย์นี้) ให้เรามา Download 1 ครั้งต่อสัปดาห์
– av-i386-cumul.zip อันนี้จะเก็บฐานข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ในนี้ไว้ให้เรามา Download และจะ Update เหมือนอันอื่นคือทุกๆวันอาทิตย์

Kaspersky 2012

Key Features : มาดูกันว่า Kaspersky Internet Security 2012 มีคุณสมบัติเด่น อะไรบ้าง
- Kaspersky URL Advisor
พัฒนาการทำเครื่องหมายที่ลิงค์ด้วยสีที่จะแสดงถึงระดับความไม่ปลอดภัย เพื่อให้คุณตัดสินใจว่าจะเปิดหรือไม่เปิดลิงค์นั้น - Kaspersky File Advisor
เช็คไฟล์ให้แน่ใจว่าปลอดภัยในคลิกเดียว - System Watcher
พัฒนาการตรวจสอบและจับตาดูการทำงานของแอพพลิเคชันต่าง ๆ ที่น่าสงสัยและสามารถย้อนคืนข้อมูลหรือไฟล์ระบบที่ถูกแก้ไขโดยมัลแวร์ - Application Control
พัฒนาการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว (Personal data) และไฟล์ระบบ (System files) โดยอ้างอิงการจำกัดจาก ความน่าเชื่อถือ และข้อมูลยืนยันตัวตน ของแต่ละโปรแกรมเอง - Safe Run Mode
ให้คุณสามารถรันแอพพลิเคชันและเว็บไซต์ที่น่าสงสัยในพื้นที่พิเศษ ที่ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไม่มีทางเข้ามาก่อนกวนหรือโจมตีเครื่องคุณได้เลย - Two-way personal firewall
ป้องกันการโจมตีของแฮ็กเกอร์ - Anti-Phishing and Anti-Spam technology
พัฒนาเทคโนโลยีการป้องกันข้อมูลส่วนตัว ต่อต้านเมล์ขยะและแอดแวร์ - Parental Control
พัฒนาระบบการควบคุมที่ช่วยให้เด็ก ๆ ปลอดภัยจากข้อมูลและสื่ออันตรายทุกรูปแบบเมื่อพวกเขาใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต - Completely redesigned interface
พัฒนาส่วนการนำทางหรือหน้าตาเมนูการตั้งค่าของโปรแกรมใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว และเข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น
New in Protection : ต่อไปก็มาดู การป้องกันใหม่ ของเจ้า Kaspersky Internet Security 2012 ว่ามีอะไรเพิ่มมาบ้าง
- พัฒนาระบบการถอนการติดตั้งแอพพลิเคชันที่เข้ากันไม่ได้ระหว่างการติดตั้ง Kaspersky โดยแอพพลิเคชันที่ถูกตรวจพบจะอ้างอิงจาก รายชื่อแอพพลิเคชันที่ไม่เข้ากัน แน่นอนว่ารายชื่อจะมีการปรับปรุงใหม่ทุกครั้งที่มีการอัพเดท Kaspersky และเมื่อคุณทำการติดตั้ง Kaspersky เวอร์ชันใหม่ (เช่น Critical fix) ระหว่างการติดตั้ง Kaspersky นั้น การตรวจพบแอพพลิเคชันที่ไม่เข้ากันของ Kaspersky จะอ้างอิงกับฐานข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดบนเครื่องของคุณเอง
- พัฒนาระบบการยืนยันผลิตภัณฑ์ ใน Kaspersky 2012 การยืนยันผลิตภัณฑ์ การซื้อใบอนุญาต และการเปลี่ยนรุ่นผลิตภัณฑ์ จะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- พัฒนาระบบต่อต้านภัยคุกคามที่ไม่รู้จัก โดย System Watcher จะรวบรวมข้อมูลจากการทำงานส่วนอื่น (เช่น Proactive Defense, Mail Anti-Virus, Web Anti-Virus, และอื่น ๆ ) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สามารถตรวจจับภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จัก และเมื่อตรวจพบมัลแวร์แล้ว โปรแกรมจะทำการบล็อคการทำงานทันที และบันทึกประวัติการทำงานทั้งหมดของมัลแวร์ตัวนั้น ดังนั้นคุณก็จะสามารถคืนค่าเดิมระบบที่มัลแวร์ตัวนั้นเข้าไปแก้ไขได้ทันที เมื่อคุณตรวพบมัลแวร์
- พัฒนาการทำงานของ URL Advisor ตัวคำนวณระดับความเสี่ยงของลิงค์บนเว็บ ซึ่งไม่ใช่แค่อ้างอิงกับฐานข้อมูลที่อยู่บนเครื่อง แต่ยังอ้างอิงจากข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์ Kaspersky Lab โดยตรงอีกด้วย ซึ่ง Kaspersky URL Advisor จะช่วยคำนวณความเสี่ยงของเว็บก่อนที่คุณจะกดลิงค์เข้าไป และยังให้ข้อมูลคุณก่อนเข้าไปว่าเป็นเว็บที่มีความเสี่ยงเรื่องไหนและเป็นเว็บประเภทไหนอีกด้วย ทั้งนี้คุณก็สามารถเข้าไปปรับได้ว่าต้องการให้ URL Advisorแจ้งเตือนแค่เว็บประเภทไหนเท่านั้นก็ยังได้ (เช่น เว็บลามก, เว็บที่มีเนื้อหารุนแรง)
- พัฒนาความเข้ากันได้ของ Kaspersky URL Advisor ให้สามารถทำงานได้ครอบคลุมบนเว็บบราวเซอร์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันรองรับเว็บบราวเซอร์เหล่านี้แล้ว
- Internet Explorer 6, 7, 8 และ 9
- Mozilla Firefox 3.x และ 4.x
- Google Chrome 7, 8, 9 และ 10
- พัฒนาระบบต่อต้านเว็บไซต์ปลอมแปลงและเลียนแบบ (Phishing) โดยข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ดังกล่าวจะถูกส่งไปตรวจสอบยังฐานข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ของ Kaspersky Labs จากนั้นจึงส่งต่อไปเทียบข้อมูลกับระบบ Cloud (Kaspersky Security Network) ถ้าเว็บดังกล่าวไม่ตรงกับข้อมูลใดเลยทั้งสองแห่ง ก็ถือว่าเป็นเว็บที่ปลอดภัย
- การตรวจสอบความปลอดภัยของไฟล์ หนึ่งในฟังก์ชันใหม่ในการยืนยันความปลอดภัยของไฟล์ สามารถเช็คให้แน่ใจก่อนใช้งานไฟล์ได้ อย่างเช่นเมื่อคุณดาวน์โหลดไฟล์มาจากอินเตอร์เน็ต แต่คุณไม่แน่ใจว่าไฟล์ดังกล่าวเป็นไฟล์อันตรายหรือไม่ ก็สามารถเช็คเทียบด้วย Kaspersky Security Network กับคนทั่วโลกได้ทันที
- เทคโนโลยีการตรวจหารูทคิท (รูทคิท คือโปรแกรมที่สามารถซ่อนตัวเองจากระบบตรวจจับทั่วไปได้) ส่วนนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- พัฒนาการทำงานของแอพพลิเคชันให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องน้อยลง เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปโดยส่วนใหญ่ ที่ชอบดูวิดีโอออนไลน์ (รวมถึงวิดีโอความละเอียดสูง (HDTV)), ฟังวิทยุออนไลน์, เล่นอินเตอร์เน็ต, คุยผ่าน VoIP (เช่น Skype), เล่นเกมออนไลน์ และอื่น ๆ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแอพพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น และลดผลกระทบที่มีผลต่อความเร็วของเครื่องให้น้อยลง
- ระบบดาวน์โหลดฐานข้อมูลอัฉริยะ ระบบนี้จะช่วยให้ดาวน์โหลดฐานข้อมูลเฉพาะฟังก์ชันที่เปิดใช้งานไว้เท่านั้น ดังนั้นจึงลดจำนวนไฟล์ที่ต้องอัพเดททำให้อัพเดทเสร็จเร็วมากยิ่งขึ้น
- ไม่จำเป็นต้องฝึกระบบ Anti-Spam อีกต่อไป แต่หันไปใช้การป้องกันด้วยระบบฐานข้อมูลบน Cloud แทน สำหรับตัวอย่างอีเมล์ขยะทั่วไป
- พัฒนาระบบป้องกันอีเมล์ขยะให้ดีขึ้น โดยการตรวจสอบข้อความจะไม่ได้ตรวจสอบแค่ส่วนของ ข้อความตัวอักษร หัวข้อ และรูปเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยี Cloud (Kaspersky Security Network) จะช่วยให้สามารถกำจัดจดหมายขยะได้แบบเรียลไทม์
- รองรับระบบจอสัมผัส
- ฟังก์ชันที่ใช้ดูการดำเนินงานภายใน Task Manager (ของ Kaspersky) ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการใช้ทรัพยากรของระบบ และสามารถตรวจสอบสถานะการทำงาน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรเครื่องที่มีอยู่
- Kaspersky Desktop Gadget ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างมาก (ใช้ได้เฉพาะ Vista และ Win7) สามารถแก้ไขรายการคำสั่งได้ และยังใส่คำสั่งที่ต้องการได้เพิ่มมากขึ้นด้วย เช่น คำสั้งอัพเดท, คีย์บอร์ดเสมือน, รายการของปัญหาที่พบ และอื่น ๆ
System Requirement : สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ความต้องการของระบบ มาดูกันดีกว่าว่า KIS 2012 ต่องการเสปกเครื่องขึ้นต่ำเท่าไหร่
Windows XP Home Edition (SP2 ขึ้นไป)
Windows XP Professional (SP2 ขึ้นไป)
Windows XP Professional 64-bit Edition (SP2 ขึ้นไป)
- CPU 800 MHz ขึ้นไป
- แรมอย่างน้อย 512 MB
Windows Vista (ทุกเวอร์ชัน)
Windows 7 (ทุกเวอร์ชัน)
- CPU 1 GHz ขึ้นไป
- แรมอย่างน้อย 1 GB สำหรับ Windows 32-bit
- แรมอย่างน้อย 2 GB สำหรับ Windows 64-bit
สำหรับท่านที่ต้องการอัพเกรดจาก เวอร์ชัน 2010 และ 2011 เป็น เวอร์ชัน 2012 ท่านสามารถ Download Kaspersky 2012 มาลงทับ เวอร์ชันที่ท่านใช้อยู่ได้เลยตามลิ้งค์ด้านล่าง และผู้ที่ต้องการใช้ เวอร์ชันทดลอง ก็ดาวน์โหลดที่ลิ้งค์ด้านล่างเช่นกัน
10.McAfee VirusScan

McAfee AntiVirus Plus (โปรแกรม แอนตี้ไวรัส ที่ยังคงโด่งดัง ตลอดในอดีตถึงปัจจุบัน) : ในทุกวันนี้เราสามารถพบเจอไวรัสร้าย และการคุกคามในรูปแบบของไวรัสเป็นจำนวนที่มากกว่า 500,000 รายการ ในขณะเดียวกันก็มีไวรัสและการคุกคาม ในระบบอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นใหม่กว่า 2,000 รายการในทุกๆ เดือน และการที่จะสยบกับการคุกคามดังกล่าวได้นั้น โซลูชันเพื่อการป้องกันไวรัสจะต้องมีคุณสมบัติในการสอดส่อง ตรวจจับ และกำจัดการคุกคามความปลอดภัยได้หลากหลายประเภท ซึ่งต้องรวมถึงไวรัส สปายแวร์ โทรจันและเวิร์มได้แบบเรียลไทมม์
สำหรับแมคอาฟี ซึ่งมีการทำงานโดยอัตโนมัติและมีการอัพเดทระบบอยู่ทุกวัน จะช่วยปกป้องคุณให้รอดพ้นจากการคุกคามในรูปแบบใหม่ๆ ได้ในยามที่คุณกำลังท่องอินเตอร์เน็ต สนทนาผ่านระบบออนไลน์หรือกำลังแชร์ไฟล์ แมคอาฟี ไวรัสสแกนจะช่วยคุณปกป้อง ไฟล์เอกสาร ภาพถ่ายและข้อมูลทางการเงินของคุณ ตลอดจนถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องพีซีของคุณ ด้วยการสแกนและตรวจสอบไฟล์ อีเมล์ การดาวน์โหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ตและไฟล์แนบข้อมูลอย่างละเอียดโดยอัตโนมัติ เพื่อปกป้อง เครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านในระดับสูงสุด สร้างความมั่นใจตลอดการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
คุณสมบัติ
1. เป็นโปรแกรมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการอัพเดตเวอร์ชั่นสม่ำเสมอ
2.โค รงสร้างอัลกอริทึมการหาไวรัสหรือที่เรียกว่า “สแกนเอ็นจิ้น” เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่มี่ความสามารถสูง และมีการพัฒนาหรืออัพเดตบ่อย ๆ ทำให้การป้องกันไวรัสมีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะในเวอร์ชั่นล่าสุดหรือเวอร์ชั่น 5.0 นี้
3. รู้จักป้องกันและกำจัดไวรัสได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น บูตเซกเตอร์, อินเฟ็คไฟล์ มาโคร และม้าโทรจัน ทำให้การป้องกันไวรัสจาก คอมพิวเตอร์ครอบคลุมมากที่สุด
4. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นมาของเจ้าของผลิตภัณฑ์คือ McAfee ทำอย่างสม่ำเสมอ หากเราเข้าไปเยี่ยม แวะเวียนที่ http://www.mcafee.com แล้วเราสามารถแจ้งความต้องการในการรับข้อมูลเหล่านี้ผ่านทางอีเมล์ของเราได้

การทำงาน
การ ทำงาน ของ VirusScan นี้ โดยหลักการทำงานของมัน จะฝังตัวอยู่ใน หน่วยความจำ ซึ่งจะส่งผลต่อ ความเร็ว รวมของระบบ เนื่องจาก มันทำงาน อยู่เบื้องหลังตลอดเวลา โดยตรวจจับไวรัส ที่อาจซ่อนตัว มากับไฟล์ ต่างๆ ใน คอมพิวเตอร์ของเรา แต่น่าประหลาดใจ ที่ว่า McAfee จะทำให้ความเร็ว ของระบบ ลดลงแค่เกือบๆ 3% เท่านั้น เมี่อเทียบกับ Norton ที่ดึงความเร็วลงมาถึง 6% ทั้งๆ ที่ McAfee เป็นตัว Antivirus เพียงตัวเดียว ที่มีคุณสมบัติ ตรวจสอบไฟล์ ที่จะดาวน์โหลด ก่อนว่า ติดไวรัสมาหรือไม่ แม้ว่า ตัว bug หรือไวรัส นี้ จะซ่อนตัวอยู่ในรูปแบบของ Zip File ก็ตาม นอกจากนี้ ยังหยุดการดาวน์โหลด Zip File นั้นๆ มา หรือหยุด การ Extract ไฟล์ ที่ดาวน์โหลดมา ถ้าหาก ตรวจพบว่า ไฟล์นั้น ติดไวรัส ซึ่งถือเป็น โปรแกรม เดียว ที่มีคุณสมบัติในส่วนนี้มาให้ McAfee จะทำงาน แบบ Real-time ซึ่งนอกจากจะสามารถตรวจเช็คไฟล์ต่างๆ ได้แม้ ในขณะที่ใช้งาน โปรแกรมอื่นอยู่ แต่ยังสามารถ ทำการตรวจสอบไฟล์ ดาวน์โหลด ต่างๆ จาก อินเตอร์เน็ต ในขณะที่ กำลังดาวน์โหลด อีกทั้ง ยังหยุดการดาวน์โหลด หรือ set up ไฟล์ นั้นๆ โดย อัตโนมัติ ในกรณี ที่พบว่า ไฟล์นั้น ติดไวรัสมา นอกจาก ไฟล์ดาวน์โหลด แล้ว ยังตรวจสอบ email ว่าติดไวรัสมาหรือไม่ โดยเฉพาะ ผู้ที่ใช้ Outlook ซึ่ง โปรแกรม จะทำการตรวจจับ ให้โดยอัตโนมัติ เมื่อคุณโหลด mail นั้นๆ มาอ่าน
- วิธีการต่ออายุโปรแกรมหรือupdate
การอัพเดต ข้อมูลไวรัสของ McAfee เพื่อให้รู้จักกับไวรัสตัวใหม่ ๆ
หลังจากที่ทำการติดตั้ง McAfee เพื่อป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์แล้ว ควรจะต้องทำการ Update ข้อมูลของไวรัสอยู่บ่อย ๆ เพราะว่า ไวรัสคอมพิวเตอร์ จะมีชนิดใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา โดยที่การ Update ข้อมูลของไวรัสของ McAfee จะมีอยู่ 2 แบบคือ
- SuperDAT จะเป็นการ Update ในส่วนของ Scan Engine และ Virus Difinition
- DAT Update จะเป็นการ Update เฉพาะ Virus Difinition อย่างเดียว
ควรจะทำการ Update ข้อมูลของไวรัสบ่อย ๆ หากจะทำการ Update ข้อมูลไวรัสของ McAfee แล้วก็ให้อ่านใน รายละเอียดของ McAfee ก่อน ว่ามีการเปลี่ยนแปลง Scan Engine หรือเปล่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือยังเป็น Scan Engine Version เดิมที่เราใช้อยู่แล้วก็ทำแค่ Update DAT อย่างเดียวก็พอ การตรวจสอบ Version และ Scan Engine โดยการกดเมาส์ขวาที่ไอคอน McAfee ที่ Status Bar ด้านล่างขวามือ แล้วเลือกที่ About เพื่อดูรุ่นและข้อมูลต่าง ๆ
หลังจากที่ทำการดาวน์โหลดข้อมูลไวรัสอัพเดท มาแล้วก็เริ่มต้นโดยการเรียกไฟล์อัพเดทนั้น
ทำการ Update ข้อมูลไวรัสโดย ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ DAT หรือ SuperDAT ที่ Download มา

กด Next เพื่อทำงานต่อไป

โปรแกรมจะเริ่มต้นทำการ Update เองโดยอัตโนมัติ รอจนเสร็จแล้วทำการ Restart Computer ก็เป็นอันจบขั้นตอนการอัพเดท ซึ่งสามารถดูการเปลี่ยนแปลงได้โดยการ กดเมาส์ขวาที่ไอคอน McAfee ที่ Status Bar ด้านล่างขวามือ แล้วเลือกที่ About เพื่อดูรุ่นและข้อมูลต่าง ๆ
11.Malwarebytes Anti-Malware

วิธีการติดตั้งโปรแกรมกำจัดมัลแวร์ Malwarebytes
ขั้นแรก ให้คุณไปที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตโปรแกรมนี้ที่ http://www.malwarebytes.org/ จะเจอหน้าตาตามรูปด้านล่างนะครับ ให้ทำการคลิ้กที่ “Download Now” เพื่อทำการดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งมาไว้ที่คอมพิวเตอร์

เมื่อคลิ้กแล้วจะเจอหน้าตามรูปด้านล่าง ให้เลือกดาวน์โหลดได้ตามกรอบสีแดง

ไฟล์ติดตั้งจะใช้ชื่อว่า mbam-setup-1.61.0.1400 โดยมีขนาดไฟล์ที่ 9.59MB ให้คุณทำการดับเบิ้ลคลิ้กเพื่อทำการติดตั้ง

ในช่วงของการติดตั้ง คุณสามารถเลือกภาษาที่แสดงในโปรแกรมให้เป็นภาษาไทยได้ เมื่อติดตั้งตามขั้นตอนแล้ว โปรแกรมจะแนะนำให้คุณทำการอัพเดทเพื่อให้ฐานข้อมูลมัลแวร้เป็นรุ่นที่ทันสมัยสุด

เมื่ออัพเดทแล้ว ระบบจะถามว่า คุณต้องการทดลองใช้ตัวเต็มของ Malwarebytes หรือไม่? หากคุณต้องการใช้ตัวเดิม (ที่ไม่เสียเงิน) คลิ้กที่ “ปฎิเสธ” ได้เลย

การสแกนด้วย Malwarebytes’ Anti-Malware
1. จะมีการสแกนอยู่ 2 แบบ คือ แบบ quick scan และ แบบ full scan แบบ quick scan จะสแกนเฉพาะไฟล์ที่มีความสำคัญของเครื่อง แต่แบบ full scan จะให้เราเลือกสแกนไดร์ฟอื่นๆ เพิ่มเติมได้ (ในกรณีที่เรามีมากกว่า 1 ไดร์ฟ) โดยปกติใช้ quick scan ก็เพียงพอแล้ว เมื่อเลือกเสร็จแล้วว่าต้องการสแกนแบบไหน ก็ให้คลิกที่ปุ่ม Scan ได้เลย

2. ในกรณีที่เราเลือก full scan จะมีหน้าต่างมาให้เลือกว่า ต้องการสแกนไดร์ฟไหนบ้าง ซึ่งไดร์ฟที่สำคัญที่สุด คือ ไดร์ฟที่เก็บไฟล์ระบบของวินโดว์

3. ในกรณีที่เราต้องการหยุดโปรแกรมก่อนที่จะทำงานเสร็จ เราสามารถคลิกที่ปุ่ม Abort Scan ได้ แล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าเราแน่ใจหรือไม่ ก็ให้คลิกที่ปุ่ม Yes เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราต้องการยกเลิกการสแกน

4. หลังจากที่โปแกรมสแกนเสร็จ จะมีหน้าต่างขึ้นมาบอกให้เราคลิกที่ปุ่ม Show Results

5. คลิกที่ปุ่ม Show Results

6. โปรแกรมจะแสดงรายการที่เป็น Malware ที่ตรวจพบ ให้เราติ๊กถูกทุกรายการ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Remove Selected เพื่อทำการลบรายการ Malware ที่เราเลือกไว้

7. เสร็จแล้วโปรแกรมจะแสดงหน้าต่างว่าทำงานเรียบร้อยแล้ว และเปิดโปรแกรม Notepad เพื่อแสดงรายละเอียดให้เราดู

หมายเหตุ
- โปรแกรมไม่สามารถทำงานใน Window Me, Windows 98, Windows 95
- ควรติดตั้งโปรแกรมตั้งแต่เครื่องยังทำงานได้ปกติ เพราะสปายแวร์บางตัวจะทำให้เราไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ หรือติดตั้งโปรแกรมได้
- ควรทำการอัพเดทโปรแกรมก่อนสแกน ถ้าเป็นไปได้
- หลังจากทำการลบ Malware แล้ว โปรแกรมอาจจะให้ต้องทำการรีบูตเครื่องอีกครั้ง ก็ควรทำการรีบูตโดยเร็ว
- เวอร์ชั่นฟรีนี้จะไม่ทำงานแบบ real time (ไม่ทำงานตลอดเวลา) ซึ่งก็เพียงพอกับความต้องการแล้ว
12.Trend Micro Antivirus

TrendMicro เป็นซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัส ที่ก่อตั้งในปี 1988 ที่ผู้ก่อตั้งเป็นชาวไต้หวัน ชื่อนาย Steve Chang (Chang Ming-cheng) และภรรยา รวมไปถึง Jenny Chang, และพี่สาวของเขา Eva Chen แต่ว่าไปพำนักอาศัย อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เลยกลายเป็น โปรแกรมนี้ ผลิตขึ้นจากทีมงาน ในประเทศ สหรัฐอเมริกา นั่นเอง
ต่อมาในปี ค.ศ.1992 โดยประมาณ TrendMicro ถูกซื้อโดยนายทุนรายใหญ่จากญี่ปุ่น ซึ่งด้วยเหตุนี้เองจึง ย้ายสำนักงานใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา มาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา ปัจจุบัน TrendMicro มีพนักงานอยู่มากกว่า 4 พันคน จากทั่วโลก รวมถึงมีสำนักงานขายในประเทศไทย ของเราอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง โปรแกรมตัวนี้จึง ได้รับความนิยมมาก จากประเทศไตหวัน, สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ด้วยประสิทธิภาพ และ ระบบการป้องกันไวรัส ที่ความนิยมจากองค์กร โดยสามารถป้องกันไวรัสตามจุดต่างๆ ขององค์กรได้ โดยได้รับการทดสอบ ภายใต้สภาพแวดล้อมการใช้งานจริง ซึ่งรับรองผลโดย NSS Lab หน่วยงานทดสอบ ชั้นนำของโลกที่มีความเป็นกลางในการดำเนินการทดสอบ และวัดประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ด้านระบบรักษาความปลอดภัย
ขอบเขตการป้องกัน
TrendMicro มีระบบจัดการควบคุมไวรัสเครื่องคอมพิวเตอร์จากส่วนกลาง ที่ช่วยให้การอัพเดทโปรแกรมป้องกันไวรัสทันสมัยอยู่เสมอ โดยทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา ทำให้มีการปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์ชั้นดี
ประสิทธิภาพ
TrendMicro มีประสิทธิภาพการใช้งาน ในองค์กรเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการรับรองผลจาก NSS Lab ด้วยวิธีการทดสอบรูปแบบใหม่ “Real World” และให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้เทคนิคการทดสอบรูปแบบเดิมที่ไม่ได้ทดสอบเครื่องคอมพิวเตอร์กับการป้องกันภัยคุกคามล่าสุดที่มาจากอินเทอร์เน็ต
โดยได้ให้มาตรวัดที่สำคัญ 2 ประการ นอกเหนือจากการตรวจจับภัยคุกคามรูปแบบแบบเดิม คือ
1. การวัดการตรวจจับ และการปิดกั้นภัยคุกคามโดยพิจารณาจากที่มาของยูอาร์แอล (URL) ของภัยคุกคามนั้น
2. การวัดระยะห่างของช่วงเวลาระหว่างที่บริษัทผู้ค้าซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสรับรู้ถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นล่าสุด และเมื่อการป้องกันภัยคุกคามนั้นพร้อมทำงาน หรือที่เรียกว่า “Time-to-protect”
ความง่ายในการติดตั้ง
TrendMicro ใช้สถาปัตยกรรมไคลเอ็นต์-เซิร์ฟเวอร์มาตรฐาน ที่ประกอบด้วยส่วนควบคุมการจัดการประสิทธิภาพสูง มีการติดตั้งที่ง่าย ซอฟต์แวร์มีขนาดเล็กไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
ความง่ายในการใช้งาน
เมื่อติดตั้งซอฟต์แวร์แล้ว ผู้ใช้จะต้องปรับค่าคอนฟิกต่างๆ ของซอฟต์แวร์เอง เช่น การอัพเดตซอฟต์แวร์ รูปแบบการสแกนไวรัส การจัดการไวรัสที่พบ การแสดงรายงานของไวรัสที่พบ เป็นต้น มีหน้าต่างการใช้งานของโปรแกรมที่เข้าใจง่าย สามารถตั้งค่าต่างๆเองได้ด้วยตัวเอง
ลักษณะการทำงาน
TrendMicro มีการทำงาน ในระบบทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา มีโซลูชั่นการป้องกัน และกำจัดภัยคุกคามทุกรูปแบบ ครอบคลุมทุกจุดเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น การอัพเดทการทำงานของระบบอยู่ตลอดเวลา มีการกำจัดไวรัสต่างๆที่ตรวจพบ มีการจัดทำสถิติไวรัสที่แพร่กระจายในเน็ตเวิร์ก
สรุป
TrendMicro จะนิยมการใช้งานภายในองค์กร ขนาดเล็ก เป็นส่วนใหญ่ ด้วยระบบการทำงานของซอฟต์แวร์ ที่เด่นในเรื่องของ การทำงานผ่านเน็ตเวิร์กที่มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ตรวจสอบตลอดเวลา ทำให้องค์กรมั่นใจใช้ TrendMicro เพื่อป้องกันข้อมูล และ การโจมตีไวรัสรูปแบบต่างๆที่เข้ามาทำลายได้

ขั้นตอนการทำงาน
วิธีใช้งาน
วิธีการต่ออายุโปรแกรมหรือupdate
5.2.วิเคราหะห์ตารางสรุปเปรียบเทียบของ ANTIVIRUS ของแต่ละผลิตภัณฑ์
อันดับที่ 1-10

อันดับที่ 11-20

อันดับที่ 21-25

จากตารางภาพข้างต้นทำให้สามารถสรุปเปรียบเทียบ คุณสมบัติ ราคา และการได้รับความนิยมของผลิตภัณฑ์จากคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ ดังนี้
คุณภาพดีที่สุด 3 อันดับ (เรียงจากดีสุดลงไป)
1. Bitdefender Antivirus Plus
คะแนนโดยรวม : 9.58 (ซึ่งถือว่าสูงที่สุดแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่ดีที่สุด)
ราคา : $29.95 (เป็นราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ)
ความนิยม : 92.54% (ถือว่าได้รับความนิยมสูงมาก อาจเนื่องมาจากคุณภาพที่ดี และราคาที่เหมาะสม)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีหมด เช่น Anti-Malware, Anti-Worm เป็นต้น
2. Kaspersky Anti-Virus
คะแนนโดยรวม : 8.75 (ซึ่งถือว่าสูงรองลงมาจาก Bitdefender Antivirus Plus)
ราคา : $59.95 (เป็นราคาที่สูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ)
ความนิยม : 4.17% (ถือว่าได้รับความนิยมรองลงมาในระดับที่ห่างกันมาก)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีหมดเช่นกัน
3. Norton AntiVirus
คะแนนโดยรวม : 8.73 (ซึ่งถือว่าสูงลองลงมาเป็นอันดับที่ 3)
ราคา : $49.99 (เป็นราคาที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ)
ความนิยม : 0.00% (ถือว่าไม่ได้รับความนิยมเลย อาจเนื่องมาจากราคาที่สูงเกินไป)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีหมดเช่นกัน
คุณภาพแย่ที่สุด 3 อันดับ (เรียงจากแย่สุดขึ้นมา)
1. ViRobot Desktop
คะแนนโดยรวม : 2.38 (ซึ่งถือว่าต่ำที่สุด)
ราคา : $44.99 (เป็นราคาที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ)
ความนิยม : 0.00% (ถือว่าไม่ได้รับความนิยมเลย อาจเนื่องมาจากราคาที่สูง และคุณภาพต่ำ)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีไม่ครบที่ขาดไป เช่น Secure Network, Anti-Phishing เป็นต้น
2. CyberDefender Early Detection Center
คะแนนโดยรวม : 2.50 (ซึ่งถือว่าต่ำรองลงมาจากลำดับสุดท้าย)
ราคา : $39.99 (เป็นราคาที่กลาง ๆ เมื่อเทียบกับตัวอื่น)
ความนิยม : 0.00% (ถือว่าไม่ได้รับความนิยมเลย อาจเนื่องมาจากราคาที่สูง และคุณภาพต่ำ)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีไม่หมดที่ขาดไป เช่น Instant Messaging Protection เป็นต้น
3. ParetoLogic Anti-Virus PLUS
คะแนนโดยรวม : 2.75 (ซึ่งถือว่าต่ำลองลงมาเป็นอันดับที่ 3)
ราคา : $39.97 (เป็นราคาที่อยู่ในระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับตัวอื่นๆ)
ความนิยม : 0.00% (ถือว่าไม่ได้รับความนิยมเลย อาจเนื่องมาจากราคาที่สูง และคุณภาพต่ำ)
features ต่าง ๆ : โปรแกรมนี้มีไม่หมดที่ขาดไป เช่น Secure Network, Inbound Email Protection เป็นต้น
สรุปจะเห็นว่าการที่ลูกค้าจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดนั้นไม่ใช่แค่เพียงแค่เลือกจากราคาหรือคุณภาพเท่านั้นแต่จะต้องมีดีทั้ง 2อย่าง ควบคู่ และสมดุลกันไปนั่นเอง
แหล่งที่มา
http://anti-virus-software-review.toptenreviews.com/index.html
แหล่งที่มา
http://review-panda-antivirus.blogspot.com/
http://vitikar.blogspot.com/2009/12/norton.html
http://www.thaiblogonline.com/ittips.blog?PostID=16725
http://antivirus.nabia10.com/manual/avira.html
http://www.ichat.in.th/ichatgame/topic-readid112768-page1
http://www.comforu.com/Pages/NortonAntivirus.aspx
http://zogzhttp://software.thaiware.com/10473Kaspersky_AntiVirus_%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B
8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1_%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%
87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99_%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0
%B8%B1%E0%B8%AA.htmlagth.tripod.com/techteen/Norton.htm
http://www.thaigaming.com/howto/38748.htm
http://antivirus.nabia10.com/manual/avg.html
http://www.itday.in.th/kaspersky-2012/
http://www.comtrick.com/?gid=MalwareByte&p=MalwareByteScan
[ad_2]
Source link